Important Information

You are visiting the international Vantage Markets website, distinct from the website operated by Vantage Global Prime LLP
( www.vantagemarkets.co.uk ) which is regulated by the Financial Conduct Authority ("FCA").

This website is managed by Vantage Markets' international entities, and it's important to emphasise that they are not subject to regulation by the FCA in the UK. Therefore, you must understand that you will not have the FCA’s protection when investing through this website – for example:

  • You will not be guaranteed Negative Balance Protection
  • You will not be protected by FCA’s leverage restrictions
  • You will not have the right to settle disputes via the Financial Ombudsman Service (FOS)
  • You will not be protected by Financial Services Compensation Scheme (FSCS)
  • Any monies deposited will not be afforded the protection required under the FCA Client Assets Sourcebook. The level of protection for your funds will be determined by the regulations of the relevant local regulator.

If you would like to proceed and visit this website, you acknowledge and confirm the following:

  • 1.The website is owned by Vantage Markets' international entities and not by Vantage Global Prime LLP, which is regulated by the FCA.
  • 2.Vantage Global Limited, or any of the Vantage Markets international entities, are neither based in the UK nor licensed by the FCA.
  • 3.You are accessing the website at your own initiative and have not been solicited by Vantage Global Limited in any way.
  • 4.Investing through this website does not grant you the protections provided by the FCA.
  • 5.Should you choose to invest through this website or with any of the international Vantage Markets entities, you will be subject to the rules and regulations of the relevant international regulatory authorities, not the FCA.

Vantage wants to make it clear that we are duly licensed and authorised to offer the services and financial derivative products listed on our website. Individuals accessing this website and registering a trading account do so entirely of their own volition and without prior solicitation.

By confirming your decision to proceed with entering the website, you hereby affirm that this decision was solely initiated by you, and no solicitation has been made by any Vantage entity.

I confirm my intention to proceed and enter this website Please direct me to the website operated by Vantage Global Prime LLP, regulated by the FCA in the United Kingdom

By providing your email and proceeding to create an account on this website, you acknowledge that you will be opening an account with Vantage Global Limited, regulated by the Vanuatu Financial Services Commission (VFSC), and not the UK Financial Conduct Authority (FCA).

    Please tick all to proceed

  • Please tick the checkbox to proceed
  • Please tick the checkbox to proceed
Proceed Please direct me to website operated by Vantage Global Prime LLP, regulated by the FCA in the United Kingdom.

×

คุณเป็นฝั่งซื้อขายดัชนีในช่วงขาขึ้น หรือ ขาลง?

ซื้อขายดัชนีตอนนี้ >
ซื้อขายดัชนีในช่วงขาขึ้นหรือขาลง?
View More
SEARCH
  • ทั้งหมด
    การค้าขาย
    แพลตฟอร์ม
    สถาบันการศึกษา
    การวิเคราะห์
    โปรโมชั่น
    เกี่ยวกับ
  • Search
Keywords
  • ฟอเร็กซ์
  • Vantage Rewards
  • ค่าธรรมเนียม
  • facebook
  • instagram
  • twitter
  • linkedin
  • youtube
  • tiktok
  • spotify
คู่มือการกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน – อย่าใส่ไข่ทุกฟองในตะกร้าใบเดียว

สารบัญ

คู่มือการกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน – อย่าใส่ไข่ทุกฟองในตะกร้าใบเดียว

คู่มือการกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน – อย่าใส่ไข่ทุกฟองในตะกร้าใบเดียว

Vantage Updated Updated Tue, 2023 April 4 01:00

พวกเราส่วนใหญ่คงเคยได้ยินคำว่า “อย่าใส่ไข่ทุกฟองในตะกร้าใบเดียว” สรุปคือ วลีนี้เตือนเราว่าอย่าลงทุนด้วยเงินทุนทั้งหมดในการเทรด ตลาดหรือผลิตภัณฑ์เดียวเพราะเราอาจสูญเสียเงินทั้งหมด การลงทุนในสินทรัพย์ใดอย่างมากและพึ่งพามันสำหรับประสบการณ์การเทรดอาจเสี่ยงมากเกินไปแบบเดียวกับที่ไข่ทุกฟองจะแตกหากตะกร้าตกพื้น 

ดังนั้น เป็นแนวปฏิบัติที่ดีในการพิจารณาการกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในฐานะ ตราสารและกลุ่มสินทรัพย์ต่าง ๆ 

พอร์ตการลงทุนที่สมดุลมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง นี่คือคู่มือเพื่อทำความเข้าใจการกระจายความเสี่ยงและวิธีที่คุณสามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ 

ประเด็นสำคัญ

  • การหมุนเวียนในการลงทุนเกี่ยวข้องกับการกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในหลายคลาสสินทรัพย์ ภาคธุรกิจ และภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อทำให้มีความสมดุลในความเสี่ยงรวมในพอร์ตการลงทุนและเป็นไปได้ที่จะเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาว
  • ประโยชน์ของพอร์ตการลงทุนที่หมุนเวียนรวมถึงการลดความเสี่ยงจากการสูญเสียสำคัญจากการลงทุนเดียว การบรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ทางภูมิภาค และเพิ่มความสามารถในการปรับตัวเมื่อตลาดเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม การหมุนเวียนอาจจะ ลดความสามารถในการรับผลตอบแทนสูง และเพิ่มความซับซ้อนในการจัดการพอร์ต
  • ในการหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ นักลงทุนควรพิจารณาวัตถุประสงค์ในการลงทุนของตน เลือกแบ่งส่วนสินทรัพย์ที่เหมาะสม และพิจารณาระยะเวลาการลงทุนของตน สมดุลที่เหมาะสมระหว่างการหมุนเวียนและการรวมรวมเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการพอร์ตที่สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดาย

การกระจายความเสี่ยงคืออะไร 

การกระจายความเสี่ยงคือการบริหารความเสี่ยงรูปแบบหนึ่ง นักลงทุนที่กระจายความเสี่ยงจะเป็นบุคคลที่เลือกลงทุนในหลากกลุ่มสินทรัพย์, กลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ และมีฐานะการลงทุนในหลายภูมิภาค ธีมระยะสั้นและระยะยาวยังสามารถใช้การกระจายความเสี่ยง แต่เป้าหมายสำคัญที่สุดคือการกระจายความเสี่ยงของตลาดในตะกร้าต่าง ๆ 

พอร์ตการลงทุนที่สมดุลจะมีลักษณะคล้ายกับภาพรวมความเสี่ยงที่สมดุลที่มีเป้าหมายในการเอาชนะเงินเฟ้อและมอบผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว โดยการถือครองหลากกลุ่มสินทรัพย์ที่อาจเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามภายใต้ภาวะตลาดที่เจาะจง พอร์ตที่กระจายความเสี่ยงทำงานร่วมกันเพื่อลดความเสี่ยงสูญเสียเงินลงทุนก้อนโตและลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาด 

ประโยชน์ของการกระจายความเสี่ยงพอร์ต 

1. พอร์ตที่กระจายความเสี่ยงสามารถมอบประโยชน์ดังต่อไปนี้ 

โดยการกระจายการลงทุนของคุณในหลากกลุ่มสินทรัพย์ เช่น หุ้น, พันธบัตร, สินค้าโภคภัณฑ์และกระทั่งเงินสด คุณสามารถช่วยปกป้องพอร์ตจากความผันผวนอย่างรุนแรงของตลาด ซึ่งเป็นเพราะกลุ่มสินทรัพย์ที่แตกต่างกันมักจะเคลื่อนไหวแตกต่างกันในภาวะตลาดที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอาจทำตลาดหุ้นเป็นขาลง ขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำและน้ำมันอาจสร้างผลตอบแทนดีกว่าตลาด 

การกระจายความเสี่ยงทำให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้มีฐานะการลงทุนมากเกินไปในบริษัทหรือกลุ่มสินทรัพย์ที่ประสบกับการชะลอตัวอย่างรุนแรง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงพอร์ตของคุณ

2.ลดผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบเชิงภูมิรัฐศาสตร์

เหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบเชิงภูมิรัฐศาสตร์ (เช่น สงครามหรือวิกฤตการเมือง) อาจกระทบตลาดการเงินอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 เราได้เห็นรัสเซียยุติการส่งก๊าซให้กับยุโรปเพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรจากตะวันตก ผลลัพธ์คือ ราคาก๊าซธรรมชาติพุ่งสูงขึ้นถึง 120-130% ในหกเดือนแรกนับตั้งแต่สงครามอุบัติขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมว่าเหตุการณ์ตลาดสำคัญเหล่านี้เปลี่ยนแปลงตลาดอย่างไรในปี 2566 ที่นี่ 

โดยการกระจายความเสี่ยงในกลุ่มสินทรัพย์และตลาดต่าง ๆ คุณยังสามารถพยายามลดผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบเชิงภูมิศาสตร์บนพอร์ตการลงทุนของคุณ ตัวอย่างเช่น ในยามที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน นักลงทุนอาจหันไปลงทุนสินทรัพย์อย่างทองคำหรือพันธบัตรรัฐบาลที่ได้รับการคาดหวังว่าคงมูลค่าหรือเพิ่มมูลค่าในยามตลาดผันผวน 

3. ความยืดหยุ่นและความสามารถในการเปลี่ยนแปลง 

พอร์ตที่กระจายความเสี่ยงมอบความยืดหยุ่นและความสามารถในการเปลี่ยนแปลงต่อภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป หากกลุ่มสินทรัพย์หนึ่งทำผลงานได้ไม่ดี คุณอาจปรับสัดส่วนพอร์ตของคุณโดยการเปลี่ยนมาลงทุนในอีกกลุ่มสินทรัพย์ที่ทำผลงานได้ดี ซึ่งทำให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสของตลาดและลดความเสี่ยง 

ตัวอย่างเช่น หากพอร์ตการลงทุนประกอบด้วยหุ้น 30% พันธบัตร 30% สินค้าโภคภัณฑ์ 30% และเงินสด 10% คุณอาจไม่ได้เสี่ยงมากนักเมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง แต่หากคุณจัดสรรการลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้น ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะเป็นหายนะในยามตลาดหุ้นตกต่ำ ในกรณีนี้ การลงทุนในพันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์และตลาดเงินของคุณอาจช่วยคงความยืดหยุ่นและความสามารถในการเปลี่ยนแปลงของพอร์ตการลงทุน เพราะคุณสามารถกลับมาลงทุนอีกครั้งภายใต้ภาวะตลาดที่ดีกว่า 

ข้อควรระวังของการกระจายความเสี่ยง 

ถึงแม้การกระจายความเสี่ยงมอบประโยชน์มากมายแก่พอร์ตการลงทุน แต่ก็มีข้อควรระวังที่คุณควรทราบ 

1. ซับซ้อนยิ่งขึ้น 

การกระจายความเสี่ยงพอร์ตอาจต้องใช้ความพยายามอย่างมาก การเปิดหลายฐานะในกลุ่มสินทรัพย์ต่าง ๆ จะต้องอาศัยการติดตามและการปรับสัดส่วนพอร์ตบ่อยครั้ง ซึ่งอาจเพิ่มความซับซ้อนในการรักษาพอร์ตที่กระจายความเสี่ยง ในการรักษาพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม นักลงทุนต้องรับผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อถึงราคาเป้าหมายหรือปิดฐานะในเวลาที่กำหนด เพื่อบริหารภาพรวมความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตและหลีกเลี่ยงผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ 

วิธีหนึ่งที่หลีกเลี่ยงความซับซ้อนคือพิจารณาลงทุนในกองทุน ETF – กองทุนที่ซื้อขายในตลาดการเงินที่ติดตามดัชนี – ทำให้คุณมีฐานะการลงทุนกว้างขวางขึ้นในการซื้อเพียงผลิตภัณฑ์เดียว ตอนนี้คุณสามารถเทรด CFD ETF บน Vantage 

2. ผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นต่ำลง 

ขณะที่การกระจายความเสี่ยงสามารถช่วยบริหารความเสี่ยงและลดความผันผวน แต่ก็จำกัดผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นเช่นกัน โดยการกระจายการลงทุนในหลายกลุ่มสินทรัพย์ การบรรลุผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นจะเป็นเรื่องยากยิ่งขึ้น 

3. การกระจายความเสี่ยงมากเกินไป 

ความเสี่ยงจากการกระจายความเสี่ยงมากเกินไปเกิดขึ้นเมื่อพอร์ตกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์มากเกินไป และทำให้ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการกระจายความเสี่ยงหมดไป ซึ่งสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์การลงทุนที่ย่ำแย่ เพราะคุณอาจไม่มีข้อมูลหรือความเชี่ยวชาญที่เพียงพอในการบริหารสินทรัพย์จำนวนมากอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การสร้างสมดุลระหว่างการกระจายความเสี่ยงและการลงทุนสินทรัพย์จำนวนไม่มากเป็นเรื่องสำคัญ และเพื่อรับประกันว่าพอร์ตการลงทุนจะยังสามารถบริหารได้และมีประสิทธิภาพ 

วิธีกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนของคุณ 

การนำการกระจายความเสี่ยงมาใช้ในพอร์ตของคุณมีหลากหลายวิธี รวมถึงการกระจายความเสี่ยงในบริษัทหรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่เจาะจงและกลุ่มสินทรัพย์ นี่คือตัวอย่างบางส่วน 

1. กระจายความเสี่ยงในกลุ่มอุตสาหกรรมหรือบริษัทที่เจาะจง 

วิธีหนึ่งเพื่อกระจายความเสี่ยงพอร์ตคือการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ โดยการทำเช่นนี้ คุณสามารถกระจายความเสี่ยงและอาจลดผลกระทบจากผลการดำเนินงานด้านลบของบริษัทใดบริษัทหนึ่งบนพอร์ตการลงทุนโดยรวม ในอีกทางหนึ่ง คุณยังสามารถลงทุนในบริษัทที่มีขนาดหรือที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจสามารถช่วยให้คุณบรรเทาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นหรือภูมิภาคที่อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทที่เจาะจง 

ในทางตรงกันข้าม การกระจายความเสี่ยงในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับการลงทุนในอุตสาหกรรมอื่น ตัวอย่างเช่น คุณอาจเลือกลงทุนอุตสาหกรรมการแพทย์, พลังงานและธุรกิจการเงิน แนวคิดคือเมื่อกลุ่มอุตสาหกรรมหนึ่งทำผลงานย่ำแย่ กลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ อาจทำผลงานได้ดี และสามารถชดเชยผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทำผลงานย่ำแย่ 

2. กระจายความเสี่ยงในกลุ่มสินทรัพย์ต่าง ๆ 

การกระจายความเสี่ยงในกลุ่มสินทรัพย์ต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับการกระจายการลงทุนในเครื่องมือทางการเงินหลากหลายประเภท เช่น หุ้น, พันธบัตร, Forex, สินค้าโภคภัณฑ์และกระทั่งเงินสด 

แต่ละกลุ่มสินทรัพย์ต่างมีคุณลักษณะเฉพาะ รวมถึงระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นแตกต่างกัน โดยการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ต่าง ๆ คุณอาจลดภาพรวมความเสี่ยงของพอร์ตโดยการปรับสัดส่วนผลตอบแทนและความผันผวนของแต่ละกลุ่มสินทรัพย์ 

ตัวอย่างเช่น อสังหาริมทรัพย์อาจเป็นส่วนเสริมที่ดีของพอร์ตที่กระจายความเสี่ยง เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์มีค่าสหสัมพันธ์กับตลาดหุ้นต่ำ

ปัจจัยที่ควรพิจารณาสำหรับการสร้างพอร์ตที่กระจายความเสี่ยง 

เป้าหมายการลงทุน 

เมื่อต้องการสร้างพอร์ตการลงทุนที่กระจายความเสี่ยง การทำความเข้าใจเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ทนได้ของคุณอย่างชัดเจนเป็นเรื่องสำคัญ เป้าหมายการลงทุนของคุณจะขึ้นอยู่สถานการณ์ทางการเงินและอาจรวมถึงเป้าหมายอย่างเช่น การสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ บรรลุการเติบโตระยะยาวหรือรักษาระดับความมั่งคั่ง การทำความเข้าใจเป้าหมายการลงทุนสามารถช่วยให้คุณกำหนดสัดส่วนสินทรัพย์คร่าว ๆ สำหรับพอร์ตที่กระจายความเสี่ยงของคุณ 

การจัดสรรสินทรัพย์ 

การจัดสรรสินทรัพย์หมายถึง การกระจายการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น, พันธบัตร, อสังหาริมทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ การจัดสรรสินทรัพย์จะขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ทนได้ของคุณ โดยปกติแล้ว พอร์ตที่กระจายความเสี่ยงเป็นอย่างดีจะมีกลุ่มสินทรัพย์ต่าง ๆ ผสมผสานเพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงโดยรวม ซึ่งหุ้น, พันธบัตรและอสังหาริมทรัพย์เป็นกลุ่มสินทรัพย์คนละประเภทที่มาพร้อมกับระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นแตกต่างกัน โดยมักถือว่าหุ้นมีความผันผวนมากกว่าแต่อาจมอบผลตอบแทนมากกว่าในระยะยาว ขณะที่พันธบัตรถือว่ามีความเสี่ยงต่ำกว่าและอาจเสนอผลตอบแทนที่สม่ำเสมอกว่า 

ระยะเวลาการลงทุน 

ระยะเวลาการลงทุนของคุณคือระยะเวลาที่คุณวางแผนที่จะถือครองการลงทุน ซึ่งจะกระทบต่อประเภทสินทรัพย์ที่คุณควรลงทุน และระดับการกระจายความเสี่ยงเพื่อบรรลุเป้าหมายของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนาน คุณอาจสามารถยอมรับความเสี่ยงมากขึ้นและลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสมอบผลตอบแทนมากขึ้นในระยะยาว 

อย่างไรก็ตาม หากคุณมีระยะเวลาการลงทุนที่สั้น คุณอาจต้องการโฟกัสกับการลงทุนที่มอบผลตอบแทนสม่ำเสมอมากกว่า นอกจากนี้ ระยะเวลาการลงทุนของคุณอาจกระทบต่อความถี่ในการปรับสัดส่วนพอร์ตของคุณ หากคุณมีระยะเวลาการลงทุนยาว คุณอาจไม่จำเป็นต้องปรับสัดส่วนพอร์ตของคุณบ่อยเหมือนกับผู้ที่มีระยะเวลาการลงทุนสั้นกว่า เพราะคุณมีเวลามากกว่าที่จะผ่านพ้นความผันผวนระยะสั้นในตลาด 

สรุป 

โดยรวมแล้ว การกระจายความเสี่ยงคือกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการสร้างพอร์ตที่กระจายความเสี่ยงและสมดุลที่สามารถป้องกันความผันผวนของตลาดและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในระยะยาวได้ดีกว่า โดยการสร้างจุดสมดุลระหว่างการกระจายความเสี่ยงและการลงทุนสินทรัพย์จำนวนไม่มาก คุณสามารถสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่มีประสิทธิภาพอันตอบโจทย์เป้าหมายส่วนบุคคลและระดับความเสี่ยงที่ทนได้ 

หากคุณมองหาช่องทางกระจายความเสี่ยงพอร์ต คุณสามารถเปิดบัญชีเทรดกับ Vantage ด้วยตลาดเทรดหลายประเภท รวมถึง Forex, ETF, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, พันธบัตรและ CFD NDF ที่เปิดตัวล่าสุด ทำให้เทรดเดอร์มีตัวเลือกมากมายเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงพอร์ตการซื้อขาย ลงทะเบียนบัญชีซื้อขายจริงกับ Vantage ที่นี่ 

  • vantage academy open account

    เปิดบัญชีการซื้อขาย

    ค้นพบความเป็นไปได้ในการซื้อขายที่ไม่มีที่สิ้นสุดด้วยแพลตฟอร์มที่ทันสมัยของเรา ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทั้งผู้เริ่มต้นและนักเทรดที่มีประสบการณ์ ปลอดภัยไร้ความเสี่ยงด้วยบัญชีทดลอง

  • vantage academy app

    ดาวน์โหลดแอป Vantage

    แอปการซื้อขายที่ราบรื่นซึ่งได้รับความนิยมและสามารถเข้าถึงตลาดทั้งหมดในมือของคุณ

  • vantage academy start trading

    เริ่มต้นซื้อขาย

    เข้าสู่ระบบบัญชีของคุณเพื่อเริ่มต้นซื้อขายผลิตภัณฑ์กว่า 1,000 รายการ รวมถึง Forex, ดัชนี, ทองคำ, หุ้นและอื่น ๆ