Important Information

You are visiting the international Vantage Markets website, distinct from the website operated by Vantage Global Prime LLP
( www.vantagemarkets.co.uk ) which is regulated by the Financial Conduct Authority ("FCA").

This website is managed by Vantage Markets' international entities, and it's important to emphasise that they are not subject to regulation by the FCA in the UK. Therefore, you must understand that you will not have the FCA’s protection when investing through this website – for example:

  • You will not be guaranteed Negative Balance Protection
  • You will not be protected by FCA’s leverage restrictions
  • You will not have the right to settle disputes via the Financial Ombudsman Service (FOS)
  • You will not be protected by Financial Services Compensation Scheme (FSCS)
  • Any monies deposited will not be afforded the protection required under the FCA Client Assets Sourcebook. The level of protection for your funds will be determined by the regulations of the relevant local regulator.

If you would like to proceed and visit this website, you acknowledge and confirm the following:

  • 1.The website is owned by Vantage Markets' international entities and not by Vantage Global Prime LLP, which is regulated by the FCA.
  • 2.Vantage Global Limited, or any of the Vantage Markets international entities, are neither based in the UK nor licensed by the FCA.
  • 3.You are accessing the website at your own initiative and have not been solicited by Vantage Global Limited in any way.
  • 4.Investing through this website does not grant you the protections provided by the FCA.
  • 5.Should you choose to invest through this website or with any of the international Vantage Markets entities, you will be subject to the rules and regulations of the relevant international regulatory authorities, not the FCA.

Vantage wants to make it clear that we are duly licensed and authorised to offer the services and financial derivative products listed on our website. Individuals accessing this website and registering a trading account do so entirely of their own volition and without prior solicitation.

By confirming your decision to proceed with entering the website, you hereby affirm that this decision was solely initiated by you, and no solicitation has been made by any Vantage entity.

I confirm my intention to proceed and enter this website Please direct me to the website operated by Vantage Global Prime LLP, regulated by the FCA in the United Kingdom

By providing your email and proceeding to create an account on this website, you acknowledge that you will be opening an account with Vantage Global Limited, regulated by the Vanuatu Financial Services Commission (VFSC), and not the UK Financial Conduct Authority (FCA).

    Please tick all to proceed

  • Please tick the checkbox to proceed
  • Please tick the checkbox to proceed
Proceed Please direct me to website operated by Vantage Global Prime LLP, regulated by the FCA in the United Kingdom.

×

เริ่มคัดลอกการเทรดเพียง $50

คัดลอกการเทรดตอนนี้ >
เริ่มคัดลอกการเทรดเพียง $50
SEARCH
  • ทั้งหมด
    การค้าขาย
    แพลตฟอร์ม
    สถาบันการศึกษา
    การวิเคราะห์
    โปรโมชั่น
    เกี่ยวกับ
  • Search
Keywords
  • ฟอเร็กซ์
  • Vantage Rewards
  • ค่าธรรมเนียม

เกี่ยวกับเรา

  • facebook
  • instagram
  • twitter
  • linkedin
  • youtube
  • tiktok
  • spotify
ผู้ชนะและผู้แพ้ในภาคส่วน​​ต่าง ๆ​​: อุตสาหกรรมใดบ้างที่จะได้รับประโยชน์หรือได้รับผลกระทบจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024​

สารบัญ

ผู้ชนะและผู้แพ้ในภาคส่วน​​ต่าง ๆ​​: อุตสาหกรรมใดบ้างที่จะได้รับประโยชน์หรือได้รับผลกระทบจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024​

ผู้ชนะและผู้แพ้ในภาคส่วน​​ต่าง ๆ​​: อุตสาหกรรมใดบ้างที่จะได้รับประโยชน์หรือได้รับผลกระทบจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024​

Vantage Updated Tue, 2024 October 22 06:47

​​เมื่อ​​การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 ใกล้เข้ามา ทุกสายตาจับจ้องไปที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อภาคส่วนต่าง ๆ  ของสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เนื่องจาก​​มุมมองนโยบายของผู้สมัครแต่ละฝ่ายนั้น​​มีจุดยืนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และคาดว่าผู้สมัครแต่ละคนจะยึดมั่นในฐานะตัวแทนสูงสุดของพรรคการเมืองของตน​ 

​​ขณะนี้การแข่งขันระหว่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี​​คามาลา​​ แฮร์ริส ​​ไม่ส่าใครจะชนะการเลือกตั้ง ต้องมีบางภาคส่วนได้รับประโยชน์ ขณะที่ภาคส่วนอื่น ๆ อาจเผชิญกับอุปสรรค​​ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าภาคส่วนเหล่านั้นจะ​​เข้ากันกับมุมมองของผู้สมัครแต่ละคนอย่างไร​ 

​​มาดูกันโดยละเอียดว่านักลงทุนควรจับตาดูภาคส่วนใดบ้าง​ 

​ประเด็น​​สำคัญ​ 

  • ​​การเลือกตั้ง​​ครั้งก่อน ๆ ​​แสดงให้เห็นการกระจายตัวของภาคส่วนอย่างมีนัยสำคัญ โดยภาคอุตสาหกรรม เช่น ภาคการเงินและพลังงาน จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง​ 

  • ​​หากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ​​ภาคน้ำมันและก๊าซ และบริการทางการเงินอาจเจริญรุ่งเรือง ใน​​ขณะที่ชัยชนะของ​​คามาลา​​ แฮร์ริสอาจส่งเสริมอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดและการดูแลสุขภาพ​ 

  • ​​แม้ว่าการเลือกตั้งอาจมีผลกระทบต่อภาคส่วน​​บางอย่าง​​ แต่ข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นว่าผลกระทบโดยรวมของตลาดนั้นคงอยู่เพียงระยะสั้น จึงแนะนำให้นักลงทุนรักษาพอร์ตการลงทุน​​ให้มี​​การกระจายความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงการวางกลยุทธ์ระยะยาวโดยพิจารณาแต่ผลการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว​ 

การเลือกตั้ง​​ในอดีต​​บอกอะไรเราได้บ้าง? [1]​ 

​​สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า​ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ​มีแนวโน้มที่จะกระตุ้นให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “การกระจายตัวของภาคส่วน”​ 

​​การกระจายตัวของภาคส่วนเป็นคำศัพท์ทางเทคนิคที่อธิบายถึงความแตกต่างของประสิทธิภาพระหว่างสองภาคส่วนหรือมากกว่านั้น เมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม ในการเลือกตั้งสองครั้งล่าสุดในปี 2016 และ 2020 มีการสังเกตเห็นการกระจายตัวของภาคส่วนอย่างชัดเจน เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้แนวคิดที่ว่านโยบายของผู้สมัครรับเลือกตั้ง​​มีอิทธิพล​​ให้เกิดการเคลื่อนไหวของตลาดควบคู่ไปกับผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นนั้นดูน่าเชื่อถือ​ 

การกระจายตัวของภาคการเลือกตั้งปี ​2016 

​​ภาพที่ 1: ภาคส่วนที่มีผลงานดีที่สุดและแย่ที่สุดในสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้ง เดือนพฤศจิกายน ​2016​ ข้อมูลจาก State Street Global Advisors ( ​https://www.ssga.com/sg/en/institutional/insights/impact-of-the-us-election-on-sector-investing

​​ในการเลือกตั้งปี ​2016​ เราสังเกตเห็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการกระจายตัวของภาคส่วนในเดือนพฤศจิกายน​ 

​​ตามที่แสดงในแผนภูมิข้างต้น ดัชนี S&P Financials พุ่งสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับ ​ดัชนี S&P 500 ​ของตลาดทั่วไป​​ในขณะเดียวกัน ดัชนี S&P Utilities กลับทำผลงานได้ต่ำกว่าตลาดอย่างมาก​ 

​​ในกรณีนี้ เกิดการกระจายตัวของภาคส่วนระหว่างภาคการเงินและภาคสาธารณูปโภค หลังจากวันเลือกตั้ง ชัยชนะที่น่าตกตะลึงของทรัมป์ทำให้ภาคส่วนทั้งสองแตกต่างกันถึง 17% ​​ทำไมสิ่งนี้​​จึงเกิดขึ้น?​ 

​​เพราะ​​ทรัมป์ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยยึดหลักการยกเลิกกฎระเบียบทางธุรกิจ โดยเชื่อว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อเขาชนะการเลือกตั้ง นักลงทุนก็แสดงปฏิกิริยาตอบสนองโดยอิงจากความคาดหวังว่าเขาจะผลักดันนโยบายที่จะส่งผลให้การควบคุมและการกำกับดูแลธนาคารและสถาบันการเงินลดน้อยลง​ 

​​ส่งผลให้ภาคการเงินได้รับประโยชน์อย่างไม่สมส่วนจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการยกเลิกกฎระเบียบ ทำให้ภาคการเงินนี้ก้าวล้ำหน้าภาคอื่น ๆ แนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน​ 

การกระจายตัวของภาค​​ส่วนจาก​​การเลือกตั้งปี 2020​ 

​​ภาพที่ 2: ภาคส่วนที่มีผลงานดีที่สุดและแย่ที่สุดในสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้ง เดือนพฤศจิกายน 2020 ข้อมูลจาก State Street Global Advisors ( ​https://www.ssga.com/sg/en/institutional/insights/impact-of-the-us-election-on-sector-investing

​​สำหรับ​​การเบือกตั้งปี 2020​​ เราเห็นการกระจายตัวของภาคส่วนอย่างชัดเจนอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน (ซึ่งเป็นวันที่วันลงคะแนนเสียงเกิดขึ้น)​ 

​​ครั้งนี้ กลุ่มพลังงานเป็นผู้ชนะอย่างชัดเจน โดยพุ่งขึ้นมากกว่า 27% แซงหน้ากลุ่มสาธารณูปโภคซึ่งเป็นกลุ่มที่มีผลงานแย่ที่สุด ในช่วงเวลานี้ ตลาดหุ้นโดยรวมมี ​แนวโน้มขาขึ้น ​โดยดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 8% ตลอด​​ช่วง​​สิ้นเดือน​ 

​​ภาคพลังงาน ประกอบด้วยบริษัทน้ำมันและก๊าซเป็นส่วนใหญ่ สังเกตว่าดัชนีพลังงานมีแนวโน้มลดลงในช่วงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้ง เป็นเพราะไบเดนใช้นโยบายพลังงานสะอาดและหมุนเวียน และชัยชนะ​​ของเขาที่ใกล้เข้ามา (ที่สุดท้ายแล้วก็เป็นจริง)​​ ทำให้บรรดานักลงทุนเชื่อว่าบริษัทน้ำมันและก๊าซจะต้องเผชิญกับนโยบายที่ไม่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม เมื่อวุฒิสภายังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรครีพับลิกัน วาระด้านพลังงานหมุนเวียนของไบเดนก็เผชิญกับการต่อต้านอย่างหนักและเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว​ 

​​การพัฒนานี้สร้าง​​ความมั่นใจ​​ให้ตลาดหุ้นพลังงานกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง ซึ่งอธิบายถึงการพุ่งสูงขึ้นของภาคส่วนนี้ได้​ 

​ภาคส่วนที่อาจได้รับหรือเสียประโยชน์​​ในปี 2024​ 

 ​​ภาคส่วนที่น่าจะได้รับประโยชน์ ​​ภาคส่วนที่จะเผชิญกับความท้าทาย 
​​หากทรัมป์ชนะ​ • ​​น้ำมันและก๊าซ​ 
​• ​​บริการทางการเงิน​ 
• ​​โครงสร้างพื้นฐาน​ 
• ​​เงินดอลลาร์สหรัฐ​ 
• ​​อสังหาริมทรัพย์​ 
• ​​พลังงานสะอาด​ 
พันธบัตร 
​​หากแฮร์ริสชนะ​ • ​​พลังงานสะอาด​ 
• ​​การดูแลสุขภาพ​ 
สินค้าโภคภัณฑ์ 
• ​​การส่งออกและการผลิตในประเทศ​ 
• ​​พันธบัตร​ 
• ​​น้ำมันและก๊าซ​ 
• ​​บริการทางการเงิน​ 
• ​​เงินดอลลาร์สหรัฐ​ 

หากทรัมป์ชนะ ภาคส่วนใดจะได้รับประโยชน์? [2]​ 

​​นโยบายของทรัมป์อาจสรุปได้ว่า “มีกฎระเบียบน้อยลงและเก็บภาษีน้อยลง” ซึ่งอาจขับเคลื่อนเครื่องจักรเศรษฐกิจหลักของสหรัฐฯ ได้​ 

​​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ทรัมป์กลับมาที่ทำเนียบขาวอาจส่งผลดีต่อ ภาคส่วน ​น้ำมัน ​และก๊าซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงเป้าหมายของเขาในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมถ่านหินในขณะที่ขยายความพยายามในการขุดเจาะน้ำมันบนผืนแผ่นดินอเมริกา “​​เรามี ​ทองคำเหลว ​มากกว่าใครๆ​​” ทรัมป์เคยกล่าวไว้ในเรื่องหน้าปกของ ​​นิตยสาร Businessweek เมื่อไม่นาน​​นี้​ 

​​หากพิจารณาจากวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งก่อน คาดว่าทรัมป์จะยกเลิกหรือลดการสนับสนุนพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนลง อีกทั้งยังเสนอให้เพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนในน้ำมันและก๊าซอีกด้วย​ 

​​ผู้ที่ได้รับประโยชน์อีกรายจากสภาพแวดล้อมการกำกับดูแลธุรกิจที่ผ่อนปรนมากขึ้นซึ่งคาดว่าทรัมป์จะส่งเสริมก็คือภาคการเงิน เช่น ธนาคารและสถาบันการเงิน​​อื่น ๆ​​ นักการธนาคารต่างหวังว่ากฎระเบียบที่เข้มงวดซึ่งกำหนดโดยรัฐบาลของไบเดนจะถูกยกเลิกหรือแม้กระทั่งถูกถอนออก โดยนักวิเคราะห์รายหนึ่งคาดว่า “มาตรฐานเงินทุนจะไม่เข้มงวดมากนัก”​ 

​​ภาคส่วนโครงสร้างพื้นฐานอาจได้รับประโยชน์จากชัยชนะของทรัมป์ เนื่องจากเขามุ่งมั่นที่จะดำเนินการตาม​​กฎหมาย​​โครงสร้างพื้นฐานที่ลงนามเป็นกฎหมายในปี ​2018​ ต่อไป ซึ่งอาจส่งผลให้มีความต้องการบริษัทก่อสร้างและผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับโครงการถนน ทางรถไฟ สนามบิน และท่าเรือทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้น​ 

​​ในที่สุด นโยบายคุ้มครองการค้าและการเพิ่มอัตราภาษีการค้าของทรัมป์อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับเงินหยวนของจีน และสกุลเงินของรัฐบาลที่ทรัมป์มองว่าเป็นศัตรูกับสหรัฐฯ​ 

ภาคส่วนใดบ้างที่อาจเผชิญกับความท้าทายหากทรัมป์ชนะ?​ 

​​ชัยชนะของทรัมป์อาจส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเขาให้คำมั่นว่าจะ “ส่งเสริมการเป็นเจ้าของบ้านผ่านแรงจูงใจทางภาษีและสนับสนุนผู้ซื้อบ้านครั้งแรก” ยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับการก่อสร้างบ้านใหม่เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลน และเปิดพื้นที่ดินของรัฐบาลกลางบางส่วนให้สร้างบ้านขนาดใหญ่ได้ มาตรการเหล่านี้อาจทำให้ราคาบ้านเติบโตช้าลงและลดค่าเช่า ส่งผลให้ผู้ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ได้ผลตอบแทนน้อยลง [3]​ 

​​พลังงานสะอาดอาจได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากเป็นคู่แข่งของอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ การสนับสนุนนโยบายที่เข้มแข็งต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซอาจทำให้ความต้องการของนักลงทุนเปลี่ยนจากพลังงานสะอาดไป​ 

​​เนื่องจากภาษีการค้าทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงอาจเผชิญกับแรงกดดันให้สูงขึ้น ในอดีต อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงมักเชื่อมโยงกับตลาดพันธบัตรที่ย่ำแย่ โดยผลตอบแทนรวมของ ​ดัชนี Bloomberg US Aggregate Bond ​เฉลี่ยอยู่ที่ -0.5% ในช่วงเวลาดังกล่าว [4]​ 

ภาคส่วนใดบ้างที่จะได้รับประโยชน์หากแฮร์ริสชนะ?​ 

​​บางทีอาจเป็นเพราะแฮร์ริสเข้าร่วมการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีช้าเกินไป จึงไม่มีเวลาชี้แจงมุมมองของเธอเกี่ยวกับภูมิทัศน์เศรษฐกิจในปัจจุบันและแนวทางแก้ไขนโยบายที่เธอมีอยู่ในใจ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในระดับเดียวกับที่ทรัมป์ทำ​ 

​​อย่างไรก็ตาม เราสามารถคาด​​การณ์ได้จากคำแถลง​​ในอดีตและสถานะของเธอในฐานะเดโมแครต​ 

​​ดังนั้น คาดว่าภาคส่วนทั้งสองจะได้รับประโยชน์จากชัยชนะของแฮร์ริส ได้แก่ พลังงานสะอาด รวมไปถึงการดูแลสุขภาพ ทั้งสองภาคส่วนนี้เป็นหัวข้อหลักสำหรับพรรคเดโมแครต และคาดว่าแฮร์ริสจะเป็นผู้นำการปฏิรูปในทั้งสองภาคส่วนจากทำเนียบขาว​ 

​​การให้ความสำคัญกับการผลิตพลังงานสีเขียวมากขึ้นจะทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ลิเธียมและแร่ธาตุหายากที่มีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้น ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องอาจปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่แฮร์ริสดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี​ 

​​ในด้านการค้าระหว่างประเทศ คาดว่าการบริหารของแฮร์ริสจะมีท่าทีเข้มงวดน้อยลง ซึ่งจะนำไปสู่การใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น ​​นำไปสู่การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ​ 

​​ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงจะเปิดโอกาสให้ผลตอบแทนพันธบัตรลดลง ​​ทำให้การลงทุนในพันธบัตรน่าสนใจยิ่งขึ้น​​ นอกจากนี้ ผู้ผลิตและผู้ส่งออกในประเทศก็มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์เช่นกัน เนื่องจากสินค้าที่ผลิตในอเมริกาจะมีราคาถูกกว่าและคู่ค้าต่างประเทศสามารถซื้อได้​ 

ภาคส่วนใดบ้างที่อาจเผชิญกับความท้าทายหากแฮร์ริสชนะ?​ 

​​ตามที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ พลังงานสะอาดและน้ำมันและก๊าซเป็นภาคส่วนที่อยู่ตรงข้ามกัน และด้วยนโยบายที่มีแนวโน้มจะสนับสนุนการไหลเข้าสู่อดีตอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซอาจเผชิญกับการชะลอตัว​​ลงหลังจากการเลือกตั้ง​ 

​​แฮร์ริสมีแนวโน้มที่จะผลักดันกฎระเบียบด้านการธนาคารและการเงินที่ร่างขึ้นภายใต้การบริหารของไบเดนในปัจจุบัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรและราคาหุ้นในภาคบริการทางการเงิน นอกจากนี้ พรรคเดโมแครตอาจใช้โอกาสนี้ในการแนะนำมาตรการใหม่เพื่อควบคุมภาคส่วนนี้ต่อไป​ 

​​สุดท้ายนี้ ​​การบริหารของแฮร์ริส​​อาจ​​สนับสนุนนโยบายที่ทำ​​ให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงได้ ดังนั้น นักลงทุนฟอเร็กซ์​​ควรจับตามองเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด​ 

กลยุทธ์การลงทุนที่ควรพิจารณา​ 

​​ภาพที่ 3: ผลการดำเนินงานของตลาดในปีถัดจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แหล่งที่มาจาก The National ( ​https://www.thenationalnews.com/business/money/2024/08/01/donald-trump-kamala-harris-investments/

​​ภาพ​​ข้างต้น​​แสดง​​ถึง​​ผลการดำเนินงานของตลาดสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ  ในปีถัดจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คุณจะสังเกตเห็นว่าไม่มีรูปแบบหรือแนวโน้มที่ชัดเจนเกี่ยวกับพรรคการเมืองใดที่จะชนะ สิ่งเดียวที่ชัดเจนคือตลาด​​มักจะตอบสนองในทางบวกเกือบทุกครั้ง​ 

​​สิ่งนี้เป็นการเตือนใจที่สำคัญว่าอย่ายึดติดกับผลการเลือกตั้งมากเกินไปหรือลงทุนกับผลการดำเนินงานของแต่ละภาคส่วนมากเกินไป​ 

​​การวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตโดย US Bank Asset Management Group พบว่าผลกระทบของผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือการควบคุมของพรรคการเมืองต่อความเคลื่อนไหวของตลาดนั้นแทบไม่มีนัยสำคัญ และ​​ผลกระทบใด ๆ ก็มีกจะเกิดขึ้นในเวลาสั้น ๆ​​ เท่านั้น ระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อต่างหากที่ทำนายความเคลื่อนไหวของตลาดได้ดีกว่าผลลัพธ์ของการเลือกตั้ง [5]​ 

​​ดังนั้น ขอแนะนำให้นักลงทุนรักษาระดับการกระจายการลงทุนในพอร์ตการลงทุนให้อยู่ในระดับที่ดี ​​เผื่อรองรับ​​ความผันผวนในระยะสั้นที่อาจเกิดขึ้น​​จากการเลือกตั้ง​ 

​​โปรดจำไว้ว่าผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ  ของผู้ที่ชนะหรือแพ้นั้นมักจะอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้น จึงควรระมัดระวังในการซื้อขายและ​​จำกัดความเสี่ยงของคุณ​ 

​​แน่นอนว่าการวางกลยุทธ์การลงทุนระยะยาวโดยยึดหลักว่าใครจะชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไปเพียงอย่างเดียวไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด​ 

สรุป: จับตาดูตลาด แต่ไม่ต้องรีบเร่ง​​ตัดสินใจ​ 

​​เนื่องจากการแข่งขันครั้งนี้ถือว่าสูสีจนเกินไป การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ​​ครั้งนี้ถือว่าคาดเดาผลลัพธ์ได้ยากและน่าตื่นเต้น​​ นี่เป็นโอกาสดีที่จะฝึกฝนทักษะการซื้อขายของคุณโดยการศึกษาพัฒนาการล่าสุดและสร้างทฤษฎีของคุณเองว่าตลาดจะดำเนินไปในทิศทางใด​ 

​​ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับหุ้นสหรัฐฯ และตลาดชั้นนำ​​อื่น ๆ​​ ของโลก​​ได้ที่​ Vantage Academy ​แหล่งความรู้ภายในของเราที่เต็มไปด้วยคำแนะนำ​​ บทความ และหลักสูตรออนไลน์ที่​​สร้างขึ้นเพื่อช่วยให้คุณ​​เรียนรู้ความซับซ้อนของการซื้อขายและการลงทุน สัมผัสกับแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับรางวัลของเราและซื้อขายหุ้น พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ และ​​อื่น ๆ​​ ทั่วโลก สมัคร ​บัญชีจริงกับ Vantage ​วันนี้!​ 

​​อ้างอิง:​

  1. “Elections and Equities: The Impact of the US Election on Sector Investing – State Street Global Advisors”. https://www.ssga.com/sg/en/institutional/insights/impact-of-the-us-election-on-sector-investing. Accessed 26 Sept 2024. 
  2. “Watch for the Trump Trade in Banking and Big Oil – Bloomberg”. https://www.bloomberg.com/news/newsletters/2024-07-17/wall-street-s-trump-trade-focuses-on-big-oil-banking-dollar-debt. Accessed 26 Sept 2024. 
  3.  “Where Do Trump And Harris Stand On Housing Policy? – ABC News”. https://abcnews.go.com/Politics/trump-harris-stand-housing-policy/story?id=113618872.  Accessed 26 Sept 2024. 
  4. “U.S. 2024 Elections: Different Asset Classes in Focus – Century Financial”. https://www.century.ae/en/blog/us-2024-elections-different-asset-classes-in-focus/. Accessed 26 Sept 2024. 
  5. “How Presidential Elections Affect The Stock Market – Forbes”. https://www.forbes.com/sites/us-bank-wealth-management/2024/09/18/how-presidential-elections-affect-the-stock-market/. Accessed 26 Sept 2024. 
  • vantage academy open account

    เปิดบัญชีการซื้อขาย

    ค้นพบความเป็นไปได้ในการซื้อขายที่ไม่มีที่สิ้นสุดด้วยแพลตฟอร์มที่ทันสมัยของเรา ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทั้งผู้เริ่มต้นและนักเทรดที่มีประสบการณ์ ปลอดภัยไร้ความเสี่ยงด้วยบัญชีทดลอง

  • vantage academy app

    ดาวน์โหลดแอป Vantage

    แอปการซื้อขายที่ราบรื่นซึ่งได้รับความนิยมและสามารถเข้าถึงตลาดทั้งหมดในมือของคุณ

  • vantage academy start trading

    เริ่มต้นซื้อขาย

    เข้าสู่ระบบบัญชีของคุณเพื่อเริ่มต้นซื้อขายผลิตภัณฑ์กว่า 1,000 รายการ รวมถึง Forex, ดัชนี, ทองคำ, หุ้นและอื่น ๆ