Michael Burray จากคุณหมอสู่นักลงทุนที่เชื่อในหลักของความจริง
Dr.Michael Burray เมื่อคุณหมอที่ต้องวินิจฉัยโรค สู่นักลงทุนที่ต้องวินิจฉัยหายนะทางเศรษฐกิจ สู่การ Short ครั้งสำคัญจนคว้ากำไรระดับพันล้าน! อะไรทำให้เขากล้า Short ทวนกระแส VFX จะสรุปให้ฟัง ?
คุณไมเคิล เบอรร์รี่ เกิดและเติบโตที่ซานโฮเซ่ แคลิฟอร์เนี่ย เขาจบปริญญาทางการแพทย์ที่ Vanderbilt แต่ตอนนั้นเขายังอ่อนต่อการลงทุน ด้วยความผิดพลาดบางอย่างทำให้เขาลาออก เพื่อไปตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของตัวเอง ที่ปัจจุบันเรียกว่า ไซออนแคปิตอล และนี่คือจุดเริ่มต้นของคุณเบอรร์รี่บนเส้นทางการลงทุน
เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค Asperger และด้วยนิสัยที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร จึงทำให้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักลงทุน กระทั่งเหตุการณ์แจ้งเกิดก็มาถึง
การ Short ครั้งแรกในวิกฤต Dot-Com
คุณเบอรร์รี่ก็เริ่มเห็นความผิดปกติของหุ้นเทคโนโลยีมีมูลค่าสูงเกินจริงในช่วงที่เกิดฟองสบู่ Dot-Com เขาจึงเริ่ม Short หุ้นเหล่านั้นทันที เป็นผลให้เขาทำกำไรได้ถึง 55% แม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวลงถึง 12% และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของเขาก็ขึ้นเหมือนเรือจรวด ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึง Vanguard, White Mountains Insurance Group และ Joel Greenblatt นักลงทุนชื่อดังได้เห็นเงินทุนของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก และสินทรัพย์โดยรวมภายใต้การบริหารมีมูลค่าถึง 600 ล้านดอลลาร์
ปัญหาใต้พรมของซับไพรม์ จนนำมาสู่ The Big Short
อย่างไรก็ตามคุณเบอรร์รี่ก็สังเกตเห็นความผิดปกติของตลาดการเงินซับไพรม์และงบดุลของธนาคาร เนื่องจากผู้กู้หลายล้านรายในสหรัฐมีรายได้ต่ำและมีทรัพย์สินเล็กน้อย แต่กลับกู้ซื้อบ้านและรถยนต์ได้ง่ายดาย โดยต้นสายปลายเหตุของความหอมหวนมักจะมีใต้บรรทัดเสมอ
เพราะในตอนนั้นราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหล่าสถาบันการเงินปล่อยกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ทำให้นักลงทุนแห่กันมาเก็งกำไร ส่งผลให้สถาบันการเงินคิดค้นหลักทรัพย์ CDOs (Collateralized Debt Obligations) ขึ้นมา และเสนอขายให้แก่นักลงทุนเหล่านั้น โดยหลักทรัพย์ CDOs จะนำสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยคุณภาพดีมาขายรวมกันกับสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างซับไพรม์
เอาละ เมื่อสินเชื่อด้อยคุณภาพมีที่ระบายออก ธนาคารก็พากันปล่อยกู้สินเชื่อบ้านและรถยนต์ที่ด้อยคุณภาพ การกระทำนี้ถือเป็นระเบิดเวลาของฟองสบู่ที่กำลังนับถอยหลังทำให้ผู้คนมากมายอาจต้องสิ้นเนื้อประดาตัว
ทางคุณเบอรร์รี่มองเห็นปัญหาใต้พรมในครั้งนี้ จึงตัดสินใจทำสัญญาซื้อขายอนุพันธ์กับสถาบันการเงิน
โดยมีเงื่อนไขว่า หากสินเชื่อซับไพรม์เบี้ยวหนี้ เขาจะได้ผลตอบแทนมหาศาล เขาซื้อล่วงหน้าถึง 3 ปี ตอนนั้นเหล่าสถาบันการเงินพากันหัวเราะกับการคาดการณ์ของเขา
.
กระทั่งปี 2008 ท้ายที่สุดระเบิดเวลาลูกนี้ก็แตกออก เกิดวิกฤตฟองสบู่สินเชื่อซับไพรม์ทันที(คนไทยรู้จักกันในชื่อวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์) หลายคนตกงาน บ้านโดนยึด ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก และจากการ Short ครั้งนี้ก็ทำให้เขาทำเงินได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์ และ 700 ล้านดอลลาร์สำหรับนักลงทุนของเขา พร้อมกันนั้น ไมเคิล เบอรร์รี่ก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากวิกฤตซับไพรม์ในครั้งนี้ แต่หลังจากนั้นเขาก็ยุติอาชีพการงานในฐานะผู้จัดการกองทุนสาธารณะ
การ Short Tesla และ Game Stop
โดยในปี 2021 คุณเบอรร์รี่ก็ถูกลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง จากการเข้าไปซื้อหุ้น GameStop ที่ภายหลังกลายเป็นสงครามระหว่างนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยที่เรียกตัวเองว่าเม่าใน Reddit แต่ความจริงแล้วคนกลุ่มนี้อาจไม่ใช่รายย่อยอย่างที่เราคิดกันก็ได้ จนท้ายที่สุดกลุ่มที่แทนตัวเองว่าเป็นรายย่อยก็คว้ากำไรมหาศาล
จากนั้นคุณเบอรร์รี่ยัง Short หุ้น Tesla ถึง 534 ล้านดอลลาร์ เพราะเขาเตือนทุกคนว่า บริษัทผลิตรถยนตร์เริ่มมีการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยตัวเอง อาจทำให้ปริมาณการซื้อเครดิตคาร์บอนของ Tesla ลดลง และคุณผู้อ่านเชื่อไหมว่า การ Short ของเขาก็เป็นผล เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2021 หุ้นบริษัท Tesla ปรับลงไปถึง 36%
ไม่ว่าคุณเบอรร์รี่จะใช้วิธีไหนในการวิเคราะห์หุ้นเพื่อปัจจัยการ Short จนเหมือนรู้อนาคตได้ แต่ที่แน่ ๆ นักลงทุนทุกประเภทสามารถนำสิ่งที่คุณเบอรร์รี่ทำไปประยุกต์ใช้กับตัวเองได้นั่นคือ การศึกษาข้อมูลเหล่านั้นอย่างถี่ถ้วน เหมือนช่วงวิกฤตซัพพลายที่เขาคลุกคลีกับเรื่องของตัวเลขหรือปัจจัยอิงปัจจัยจนท้ายที่สุดเขาก็เห็นจุดอ่อน จึงทำให้เขากล้าทวนกระแสนักลงทุน จนได้รับสมญานามว่า “Mother of Short”
“มันก็เหมือนวิกฤตฟองสบู่ทุกครั้ง ผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน แต่ที่แน่ ๆ ยิ่งปล่อยไปนานเท่าไหร่ หายนะของมันก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น” ดร.ไมเคิล เบอรร์รี่
มาเริ่มต้นเรียนรู้โลกของการลงทุนจากผู้คว่ำวอดในวงการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแค่คลิ๊ก >>> เรียนออนไลน์
อยากลงทุนแต่ไม่มั่นใจ เราพร้อมให้
คำปรึกษาฟรี
trade smarter @vantage
การเปิดบัญชีที่ง่ายและรวดเร็ว
-
ลงทะเบียน
เลือกประเภทบัญชีและส่งใบสมัครของคุณ
-
เติมเงิน
เติมเงินในบัญชีของคุณโดยใช้วิธีการฝากเงินที่หลากหลาย
-
ทำการซื้อขาย
เข้าถึงตราสาร CFD มากกว่า 400 รายการในสินทรัพย์ทุกประเภทบน MT4 / MT5
เพียงเท่านี้ การเปิดบัญชีซื้อขาย Forex และ CFD เป็นเรื่องง่าย
ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งการซื้อขาย!
เปิดบัญชีจริง
Vantage is a global, multi-asset broker offering clients access to a nimble and powerful service for trading CFDs on Forex, Commodities, Indices, Shares.
With more than 10 years of market experience and headquartered in Sydney, Vantage now has over 1,000 staff across more than 30 global offices.
Vantage is more than a broker. It provides a trusted trading ecosystem that enables clients to achieve their own success, in a faster and simpler manner.
Be empowered to better capitalise on winning market opportunities when you trade smarter @vantage.
